วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ย้อนรอยกุหลาบไฟ 1994/95


       ในนามของแฟนบอล กุหลาบไฟ คนหนึ่ง ที่ติดตามเชียร์มาตั้งแต่ฤดูกาล 1993-94 (ก่อนปีที่จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก) ในตอนนั้น "แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส" สโมสรฟุตบอลที่คนไทยรู้จักกันไม่มากนัก กำลังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ โดยกำลังไล่ตามแชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีคะแนนนำอยู่ค่อนข้างห่าง และเข้าใกล้การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 2 เข้าไปทุกที 
       โดยทีมที่สร้างจากการทุ่มเงินจำนวนมหาศาลของมหาเศรษฐี "แจ๊ค วอล์คเกอร์" ภายใต้การคุมทีมของ "เคนนี่ ดัลกลิช" ได้ทำบางสิ่งบางอย่างให้หลายคนได้เห็น โดยการไม่ถอดใจยอมแพ้ง่ายๆ พยายามทำแต้มไล่ตาม จนมีลุ้นแชมป์ในช่วงโค้งสุดท้าย  โดยมี "อลัน เชียร์เรอร์" หัวหอกวัย 23 ปี  ในขณะนั้น ทำประตูในลีกไปได้ถึง 31 ลูก ภายหลังกลับมาจากอาการบาดเจ็บจนต้องพักยาวเมื่อฤดูกาลก่อนแต่เมื่อจบฤดูกาลแชมป์ก็ตกเป็นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ดีโดยทำคะแนนทิ้งห่างไปได้ถึง 8 คะแนน 
       ต่อมาในฤดูกาล 1994-95 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เริ่มต้นสร้างความฮือฮาครั้งใหม่ ด้วยการเซ็นสัญญาคว้าตัว "คริส ซัตตัน" ศูนย์หน้าวัย 21 ปี จาก นอริช ซิตี้ ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นสถิติค่าตัวนักเตะสูงสุดของเกาะอังกฤษในเวลานั้น  
       แล้วก็เป็นปีที่น่าจดจำอย่างยิ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของฟุตบอลอังกฤษ เมื่อการไล่ล่าแชมป์ดำเนินมาอย่างเข้มข้นตลอดฤดูกาล จนต้องตัดสินกันในนัดสุดท้าย โดยในตอนนั้น ทีมกุหลาบไฟ มีแต้มนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่เพียงแค่ 2 คะแนน และนัดสุดท้ายต้องไปเยือน ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ ซึ่งถือเป็นงานที่หนักพอสมควร  
        โดยก่อนเกมมีการพูดกันอย่างหนาหูถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของเคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีม ซึ่งเป็นตำนานนักเตะของลิเวอร์พูล  ซึ่คาดเดากันไปต่างนานา ว่าลิเวอร์พูลจะยอมให้แชมป์ตกเป็นของแบล็คเบิร์น เนื่องจากไม่ต้องการให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมคู่ปรับตลอดกาลได้แชมป์ไปครอง  จึงเป็นเกมที่แฟนบอลจับตามองกันเป็นพิเศษว่าท้ายที่สุดผลจะออกมาเป็นอย่างไร
       เมื่อเริ่มการแข่งขันและเกมส์ผ่านไปได้ 20 นาที แบล็คเบิร์น ก็ขึ้นนำด้วยประตูของ อลัน เชียร์เรอร์ จากการผ่านเข้ากลางทางด้านปีกขวาของ สจ๊วต ริปลี่ย์ ซึ่งในขณะนั้น แมนฯยู ที่ต้องไปเยือนเวสต์แฮม ที่ อัพตัน พาร์ค กลับโดนขึ้นนำในนาทีที่ 31 ของการแข่งขัน จากการทำประตูของ ไมเคิ่ล ฮิวจ์  
       ดูเหมือนว่าความฝันที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกของ แบล๊คเบิร์น กำลังใกล้เข้ามาทุกที อะไรๆ ที่เป็นอยู่ก็ดูเป็นใจไปซะหมด 
        แต่แล้วผ่านไปไม่นาน ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับตาลปัตไปหมด ในนาทีที่ 54 ไบรอัน แม็คแคร์ สามารถยิงประตูตีเสมอให้แมนฯ ยู ได้สำเร็จ และ จอห์น บรานส์ ก็ทำประตูตีเสมอแบล๊คเบิร์นได้เช่นกัสถานการณ์ในตอนนั้น ถ้าแมนฯยู ยิงได้อีกแค่ประตูเดียวก็จะได้เป็นแชมป์ไปในทันที เพราะมีประตูได้-เสียดีกว่า แบล๊คเบิร์น อยู่ 
          แมนฯ ยู  ในตอนนั้น บุกเข้าใส่เวสต์แฮมอย่างบ้าคลั่ง และมีโอกาสยิงจนนับครั้งไม่ถ้วน 
          จนมาถึงจุดไคลแมกซ์ของเกมส์ ในนาที่ 89 เวลาที่แฟนบอลทีม แบล็คเบิร์น ทุกคน แทบหยุดหายใจ เมื่อฟรีคิกปลิดวิญญาณของ เจมี่ เร้ดแนปป์ ส่งลูกเข้าไปนอนแน่นิ่งอยู่ที่ก้นตาข่ายอย่างสวยหมดจด เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างที่วาดหวังไว้พังทลายไปแล้วหมดสิ้น แฟนแบล๊คเบิร์น คิดว่าความฝันทั้งหมดได้พังทลายลงไปแล้ว 
            แต่ไม่กี่อึดใจต่อมาทุกอย่างเปลี่ยนไป เสียงนกหวีดสุดท้าย ที่ อัพตัน พาร์ค และผลเสมอของ แมนฯ ยู ทำให้ทุกคนเริ่มตั้งสติ ไม่มีใครสนใจลูกยิงของ เจมี่ เรดแนปป์ อีกต่อไป ลืมไปด้วยซ้ำว่า ทีมของตัวเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ทุกคนในแอนฟิลด์ออกอาการดีใจอย่างสุดขีด ไม่เว้นแม้แต่แฟนลิเวอร์พูล ซึ่งพอใจอย่างมากที่แมนฯยูไม่ได้แชมป์ และไม่ต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นทีมที่ไม่มีสปิริต ที่สำคัญที่สุดต้องขอบคุณ เวสต์แฮม ที่สู้อย่างเต็มที่แม้ไม่ต้องลุ้นอะไรแล้วก็ตาม
             แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ นับเป็นการรอคอเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ที่ยาวนานมากหลังการเป็นแชมป์ลีกสูงสุดตั้งแต่ปี 1914 เป็นต้นมา "ทิม เชอร์วู้ด" กัปตันทีม ในเวลานั้น เป็นผู้ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก พร้อมเสียงปรบมือของแฟนบอลทั่วทั้งสนาม คู่หู SAS (Sutton and Shearer)ได้รับการกล่าวขวัญมาจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย อาทิเช่น เคนนี่ ดันกลิช ได้เป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม อลันเชียร์เรอร์ คว้ารางวัลรองเท้าทอง จากการทำทั้งหมด 34 ประตู และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมควบไปด้วย รวมถึงนักเตะอีกหลายคนติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปี ทั้ง อลัน เชียร์เรอร์, ทิม เชอร์วู้ด, โคลิน เฮนดรี้, แกรม เลอโซ และทิม ฟลาวเวอร์ส 


       
       ความสำเร็จของแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในครั้งนั้นถือว่ายิ่งใหญ่และน่าจดจำมาก เพราะจนถึงปัจจุบันแชมป์พรีเมียร์ลีกก็ถูกผูกขาดด้วยทีมใหญ่ๆ มาโดยตลอด แต่ทีมกุหลาบไฟก็ไม่วายถูกปรามาสว่าแชมป์ที่ได้มานั้นใช้เงินของ แจ๊ค วอล์คเกอร์ ซื้อมา ทั้งๆที่ในเดือนมกราคมปีเดียวกัน แมนฯยู ก็ทำลายสถิติค่าตัวนักเตะค่าตัวแพง ด้วยการซื้อ แอนดี้ โคล มาจาก นิวคาสเซิ่ล ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์ บวกกับ คีธ จิลเเลสพี เช่นกัน ไม่รวมถึงเกมที่ทั้ง 2 ทีมเจอกัน ซึ่งแบล๊คเบิร์น แพ้ทั้งไปและกลับ ที่กรรมการแจกใบแดงให้ เฮนนิ่ง เบิร์ก (แบล็คเบิร์น) อย่างไม่เป็นธรรม แถมให้จุดโทษกับแมนฯยูอย่างอีกต่างหาก 
          แต่เรื่องต่างๆ ก็ไม่ได้ถูกนำมาพูดถึง มีเหลือไว้แค่ การใช้เงินซื้อความสำเร็จ ของ แบล็คเบิร์นเท่านั้นที่ผู้คนส่วนใหญ่จดจำกันได้

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ30 มกราคม 2565 เวลา 16:10

    Caesar Casino Review | Get $300 Welcome Bonus | Shootercasino
    Caesar 카지노 Casino is a trusted online casino for real 제왕 카지노 money, including USA Players. It's the first and best online casino you can play at, and if you 인카지노 are

    ตอบลบ
  2. เยื่ยมมากครับ เก็บไว้ให้เด็กๆ อ่าน

    ตอบลบ